แอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสาร ช่วยให้ชีวิตการเดินทางนั้นสะดวกง่ายมากยิ่งขึ้น !!

ในยุคสมัยที่ได้มีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากนั้น เกิดจากความต้องการของผู้คนที่มองหาสิ่งที่จะมาช่วยในการอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตให้มีรูปแบบและง่ายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และอุปกรณ์เครื่องใช้เองก็ได้มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับกับรูปแบบที่ทันสมัยตามความต้องการของผู้คน

จากการที่ได้มีการพัฒนาในเรื่องของเครื่องใช้นั้น ก็ได้มีอีกหนึ่งสิ่งที่จะมาช่วยในเรื่องของการติดต่อสื่อสารที่สามารถจะพกพาไปได้ทุกที่นั้นคือ โทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้ในเรื่องของการติดต่อสื่อสารกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถจะติดต่อได้ และในปัจจุบันเองการพัฒนาโทรศัพท์มือถือนั้นก็กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วหรือมีการดัดแปลงรูปแบบของโทรศัพท์มือถือให้รองรับกับการพัฒนาที่เกิดขึ้น นอกจากจะใช้ในเรื่องของการติดต่อสื่อสารนั้นก็ยังได้มีเรื่องของอินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นตัวช่วยทำให้โทรศัพท์มือถือนั้นมีประสิทธิภาพการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น จากการมีแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ภายในเครื่องที่จะสามารถใช้ได้เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตในเครื่องก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน ซึ่งแอพพลิเคชั่นเหล่านี้เองจะมาเป็นตัวช่วยทำให้การใช้ชีวิตนั้นมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

และในปัจจุบันนี้เองภายในตัวเมืองกรุงเทพก็มีเรื่องของการเดินทางที่จะต้องมีเวลาเร่งด่วนและจำเป็นที่จะต้องใช้รถโดยสารเพื่อเดินทางกัน แต่การจราจรภายในกรุงเทพเองก็มีความวุ่นวายเป็นอย่างมากและจะต้องมีการแย่งเรียกรถโดยสารกัน จากการที่เกิดปัญหานี้ทำให้มีการคิดค้นแอพพลิเคชั่นที่จะมาช่วยในเรื่องของการแก้ปัญหาการเดินทางนี้ ซึ่งได้มีการพัฒนาในเรื่องของการสร้าง แอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสาร ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการเดินทางที่จำเป็นจะต้องหารถเดินทาง เพียงแค่ใช้ แอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสาร นี้ก็จะสามารถเรียกรถจากที่ไหนก็สามารถที่จะใช้บริการได้ ทำให้การเดินทางนั้นมีความสะดวกมากกว่าเดิมโดยไม่จำเป็นจะต้องแย่งเรียกรถโดยสารให้บริการ

และในประเทศไทยปัจจุบันนี้เองก็ได้มีการใช้งาน แอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสาร กันเป็นจำนวนมากเนื่องจากความสะดวกในการเรียกใช้นั้นสามารถที่จะเรียกได้ในทันที ที่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และใช้ตัวเลือกคำสั่งที่มีให้ก็สามารถที่จะใช้งานได้ทันที และภายในประเทศไทยตอนนี้เองก็ได้มีการเปิดบริการในรูปแบบของ แอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสาร กันเป็นอย่างมากจึงได้มีการพัฒนารูปแบบเพิ่มการให้บริการอื่นเพิ่มเติมมาเพื่อเป็นจุดสนใจในเรื่องของการให้บริการ จึงทำให้เรื่องความสะดวกในการเดินทางนั้นหรือบริการอื่น ๆ นั้นมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เลือกลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างไรถูกใจคู่คุณภาพ

หากคุณตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่อง มาใช้ออกกำลังกายภายในบ้าน จะต้องมาเรียนรู้เทคนิคในการเลือกกันก่อนค่ะ เพราะลู่วิ่งไฟฟ้า ก็ไม่ใช่ว่าจะราคา 100-200 บาท ที่เราเลือกผิดแล้วเราก็ซื้อใหม่ได้แบบไม่เสียดายเงิน

เทคนิคการเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า

1. ยี่ห้อและตัวแทนจำหน่าย

สิ่งแรกที่เราควรดูกันก่อนเลยคือยี่ห้อและตัวแทนจำหน่าย ที่สามารถมั่นใจได้ว่าหากเราเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาแล้ว จะมีบริการซัพพอร์ทดูแล ส่งซ่อมแซมแก้ไขปัญหา มีรับประกันคุณภาพ 5 ปี คุณอาจจะซื้อจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง หรือซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

2. กำลังมอเตอร์

เมื่อเรามั่นใจในเรื่องของคุณภาพและการรับประกันแล้ว สิ่งที่เราจะต้องดูต่อจากนี้ เป็นในส่วนของคุณสมบัติของมอเตอร์ตัวเครื่อง ซึ่งเราจะต้องตอบโจทย์ให้ได้ก่อนว่า เราจะเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า มาเพื่อการเดิน หรือ การวิ่ง

โดยหากคุณต้องการลู่วิ่งไฟฟ้ามาเดินออกกำลังกาย เลือกมอเตอร์ขนาด 1.5 แรงม้าก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้าจะซื้อมาเพื่อการวิ่งอย่างจริงจัง แนะนำให้เลือกลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นที่มีมอเตอร์แรงกว่า 2.5 แรงม้าขึ้นไป

3. ขนาดของสายพาน

ขนาดของสายพานก็เป็นอีกจุดที่เราจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถ้าหากเราใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าเพื่อการเดิน ขนาดความกว้างของสายพานสัก 45 เซนติเมตร ยาวสัก 140 เซนติเมตร และความหนาประมาณ 1.6 มิลลิเมตรก็เพียงพอค่ะ

แต่ถ้าหากคุณต้องการเลือกลู่วิ่งไฟฟ้ามาเพื่อการวิ่ง สายพานจะต้องมีขนาดกว้าง 50 เซนดิเมตร ความยาว 150 เซนติเมตร และความหนาจะต้องไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร เพื่อความสะดวกและความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน

4. ขนาดของลู่กลิ้ง

ลู่วิ่งไฟฟ้า จะมีลูกกลิ้งทรงกระบอกอยู่ตรงช่วงด้านหน้าและท้ายของสายพาน การเลือกขนาดของลูกกลิ้ง จะต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 2.5 นิ้ว เพราะถ้าหากลูกกลิ้งมีขนาดที่เล็กเกินไป รอบการหมุนก็จะเร็วมากกว่าลูกกลิ้งที่มีขนาดใหญ่ การเสื่อมสภาพของลูกปืนต่างๆ ก็เกิดขึ้นได้เร็วมากกว่าอีกด้วย

5. ความเร็วและความชัน

สำหรับคนที่อยากจะได้ลู่วิ่งไฟฟ้าไว้ใช้สำหรับการเดินออกกำลังกาย ก็เลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับความเร็วได้มากกว่าการเดินปกติของเราเล็กน้อย อาจจะเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถปรับความเร็วได้สูงสุด 16 กม./ชม. แต่สำหรับคนที่ต้องการวิ่งจริงจัง ก็เลือกตัวที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยสัก 20 กม./ชม. ก็เพียงพอต่อการใช้งานค่ะ

6. ความหนาของไม้กระดาน

คงไม่มีใครอยากที่จะวิ่งออกกำลังอยู่แล้วลู่วิ่งหัก ! กันใช่รึเปล่าคะ ดังนั้นความหนาของไม้กระดานไม่ควรต่ำกว่า 1 นิ้ว เพื่อความปลอดภัยต่อการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้า ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการวิ่งค่ะ

7. ระบบความปลอดภัย

เมื่อเราพูดถึงกันเรื่องความปลอดภัยของการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้า แน่นอนว่าเราจะต้องตรวจสอบด้วยว่า ลู่วิ่งไฟฟ้าที่เรากำลังจะตัดสินใจซื้อ มีระบบรักษาความปลอดภัยหรือไม่ หากเราวิ่งแล้วเสียจังหวะล้ม ระบบจะต้องตัดการทำงานทันที นอกจากนี้จะต้องมีระบบรองรับแรงกระแทก เพื่อลดอาการบาดเจ็บตามข้อเข่าข้อเท้าอีกด้วย

8. ฟังก์ชันเสริมเพิ่มเติม

นอกจากคุณสมบัติหลักๆข้างต้นแล้ว เรายังต้องพิจารณาฟังก์ชันเสริมเพิ่มเติมอีกด้วย อาทิเช่น พวกอุปกรณ์ต่อเสริม เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ลำโพงสำหรับฟังเพลง ต่างๆ ที่อาจจะเป็นจุดเด่นที่อาจจะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นค่ะ : )