หากคุณตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่อง มาใช้ออกกำลังกายภายในบ้าน จะต้องมาเรียนรู้เทคนิคในการเลือกกันก่อนค่ะ เพราะลู่วิ่งไฟฟ้า ก็ไม่ใช่ว่าจะราคา 100-200 บาท ที่เราเลือกผิดแล้วเราก็ซื้อใหม่ได้แบบไม่เสียดายเงิน
เทคนิคการเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า
1. ยี่ห้อและตัวแทนจำหน่าย
สิ่งแรกที่เราควรดูกันก่อนเลยคือยี่ห้อและตัวแทนจำหน่าย ที่สามารถมั่นใจได้ว่าหากเราเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาแล้ว จะมีบริการซัพพอร์ทดูแล ส่งซ่อมแซมแก้ไขปัญหา มีรับประกันคุณภาพ 5 ปี คุณอาจจะซื้อจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง หรือซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
2. กำลังมอเตอร์
เมื่อเรามั่นใจในเรื่องของคุณภาพและการรับประกันแล้ว สิ่งที่เราจะต้องดูต่อจากนี้ เป็นในส่วนของคุณสมบัติของมอเตอร์ตัวเครื่อง ซึ่งเราจะต้องตอบโจทย์ให้ได้ก่อนว่า เราจะเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า มาเพื่อการเดิน หรือ การวิ่ง
โดยหากคุณต้องการลู่วิ่งไฟฟ้ามาเดินออกกำลังกาย เลือกมอเตอร์ขนาด 1.5 แรงม้าก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้าจะซื้อมาเพื่อการวิ่งอย่างจริงจัง แนะนำให้เลือกลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นที่มีมอเตอร์แรงกว่า 2.5 แรงม้าขึ้นไป
3. ขนาดของสายพาน
ขนาดของสายพานก็เป็นอีกจุดที่เราจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถ้าหากเราใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าเพื่อการเดิน ขนาดความกว้างของสายพานสัก 45 เซนติเมตร ยาวสัก 140 เซนติเมตร และความหนาประมาณ 1.6 มิลลิเมตรก็เพียงพอค่ะ
แต่ถ้าหากคุณต้องการเลือกลู่วิ่งไฟฟ้ามาเพื่อการวิ่ง สายพานจะต้องมีขนาดกว้าง 50 เซนดิเมตร ความยาว 150 เซนติเมตร และความหนาจะต้องไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร เพื่อความสะดวกและความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน
4. ขนาดของลู่กลิ้ง
ลู่วิ่งไฟฟ้า จะมีลูกกลิ้งทรงกระบอกอยู่ตรงช่วงด้านหน้าและท้ายของสายพาน การเลือกขนาดของลูกกลิ้ง จะต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 2.5 นิ้ว เพราะถ้าหากลูกกลิ้งมีขนาดที่เล็กเกินไป รอบการหมุนก็จะเร็วมากกว่าลูกกลิ้งที่มีขนาดใหญ่ การเสื่อมสภาพของลูกปืนต่างๆ ก็เกิดขึ้นได้เร็วมากกว่าอีกด้วย
5. ความเร็วและความชัน
สำหรับคนที่อยากจะได้ลู่วิ่งไฟฟ้าไว้ใช้สำหรับการเดินออกกำลังกาย ก็เลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับความเร็วได้มากกว่าการเดินปกติของเราเล็กน้อย อาจจะเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถปรับความเร็วได้สูงสุด 16 กม./ชม. แต่สำหรับคนที่ต้องการวิ่งจริงจัง ก็เลือกตัวที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยสัก 20 กม./ชม. ก็เพียงพอต่อการใช้งานค่ะ
6. ความหนาของไม้กระดาน
คงไม่มีใครอยากที่จะวิ่งออกกำลังอยู่แล้วลู่วิ่งหัก ! กันใช่รึเปล่าคะ ดังนั้นความหนาของไม้กระดานไม่ควรต่ำกว่า 1 นิ้ว เพื่อความปลอดภัยต่อการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้า ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการวิ่งค่ะ
7. ระบบความปลอดภัย
เมื่อเราพูดถึงกันเรื่องความปลอดภัยของการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้า แน่นอนว่าเราจะต้องตรวจสอบด้วยว่า ลู่วิ่งไฟฟ้าที่เรากำลังจะตัดสินใจซื้อ มีระบบรักษาความปลอดภัยหรือไม่ หากเราวิ่งแล้วเสียจังหวะล้ม ระบบจะต้องตัดการทำงานทันที นอกจากนี้จะต้องมีระบบรองรับแรงกระแทก เพื่อลดอาการบาดเจ็บตามข้อเข่าข้อเท้าอีกด้วย
8. ฟังก์ชันเสริมเพิ่มเติม
นอกจากคุณสมบัติหลักๆข้างต้นแล้ว เรายังต้องพิจารณาฟังก์ชันเสริมเพิ่มเติมอีกด้วย อาทิเช่น พวกอุปกรณ์ต่อเสริม เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ลำโพงสำหรับฟังเพลง ต่างๆ ที่อาจจะเป็นจุดเด่นที่อาจจะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นค่ะ : )